หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2559

เคยไปหรือยัง ปราสาทโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

เคยไปหรือยัง ปราสาทโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

โอซาก้า
ปราสาท โอซาก้า - http://all-in-osaka.blogspot.com

โอซาก้า เป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนมากแล้วสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวหนึ่งในนั้นก็คือ "ปราสาทโอซาก้า" นี่เอง ทัวร์ญี่ปุ่น เราไปทำความรู้จักกับปราสาทแห่งนี้กันดีกว่า

ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)


ปราสาทโอซาก้าเป็นปราสาทแห่งหนึ่งในจังหวัดโอซาก้าประเทศญี่ปุ่น ปราสาทโอซาก้าอยู่ในเขตชูโอะ จังหวัดโอซาก้า ญี่ปุ่น ที่ปราสาทแห่งนี้มีส่วนสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเมื่อช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นยุคสมัยอาซุชิโมโมะยามะ

ตัวโครงสร้างของปราสาทโอซาก้าจะประกอบขึ้นด้วยโครง 13 อย่างตามที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการระบุให้เป็นสมบัติสำคัญทางด้านวัฒนธรรม โดยที่จุดเด่นที่เรียกได้ว่าพิเศษสุดๆของปราสาทโอซาก้านี่คือประตูขนาดใหญ่และปราการที่แข็งแรงที่ตั้งอยู่ตามกำแพงเมืองด้านนอกที่มีความสูงเกือบถึง 30 เมตรทีเดียว โดยเป็นการนำก้อนหินขนาดใหญ่มาสร้างเป็นกำแพง โดยขนส่งเข้ามาทางเหมืองที่อยู๋ห่างออกไปกว่า 100 กิโลเมตร

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของปราสาทแห่งนี้คือ หลังคาที่มีรูปปลาโลมาทั้ง8ตัวอยู่ตัวหลังคานั้นถูกแกสลักเป็นรูปทรงของเสือโดยทั้งสองอย่างที่กล่าวมาถูกชุบด้วยทองคำ หอชั้นบนของปราสาทโอซาก้าได้รับการซ่อมแซมในปีพ.ศ. 2540 โดยเน้นไปที่การทำให้ตัวกำแพงหินและรูปปั้นทองคำนั้นดูสดใสและสวยงามเมื่อมองจากที่ไกลๆ ซึ่งการบำรุงซ่อมแซมนี้เองทำให้ปราสาทโอซาก้าหลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองไปโดยปริยาย

ปราสาทโอซาก้า ญี่ปุ่น

ในปีค.ศ.1583 โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ ได้มีคำสั่งให้ก่อสร้างปราสาทโอซาก้าขึ้นที่บริเวณวัดอิชิยามะฮงกัน โดยมีการนำแปลนมาจากปราสาทอะซุชิ ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการหลักของโอดะ โนบุนางะ โทโยโตมิต้องการที่จะสร้างให้ออกมาเหมือนกันปราสาทอะซุชิ แต่สิ่งที่ออกมาคือปราสาทโอซาก้าโดดเด่นกว่ามาก โดยมีหอคอย5ชั้นบวกกับใต้ดิน3ชั้น  เมื่อตัวปราสาทนั้นสร้างเสร็จในปีค.ศ.1585 โทโยโตมิจึงริเริ่มขยายพื้นที่ของตัวปราสาทเพื่อเป็นการป้องกันจากข้าศึก จนมาในปีค.ศ.1597 การขยายพื้นที่เสร็จสิ้นซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่โทโยโตมิได้เสียชีวิตลง ปราสาทจึงตกเป็นของโทโยโตมิ ฮิเดโยริเป็นบุตรชายของเขานั่นเอง

ต่อมาในปีค.ศ.1600 โทกุงาวะหลังจากที่ได้รับชัยชนะในสงครามก็ได้เริ่มจัดตั้งรัฐบาลบากุฟุในเอโดะขึ้นปีค.ศ.1614 โทกุงาวะเริ่มเข้าโจมตีกองกำลังของฮิเดโยริที่เรียกกันว่า "ยุทธการล้อมโอซาก้า" ผลที่ออกมาก็คือฮิเดโยริสามารถปกป้องการรุกรานเอาไว้ได้

ปีค.ศ.1615 ในช่วงฤดูร้อนฮิเดโยริได้ทำการขุดคลองรอบนอกปราสาท นั่นจึงทำให้โทกุงาวะลอบเข้าไปโจมตีปราสาทโอซาก้าและสามารถเจาะเข้ามายังกำแพงเมืองได้ ปราสาทโอซาก้าจึงตกเป็นของโทกุงาวะและเป็นช่วงสุดท้ายของตระกูลโทโยโตมินั่นเอง

ปีค.ศ.1620 โทกุงาวะ ฮิเดตาดะเป็นโชกุนคนที่2ของตระกูล ได้เริ่มบูรณะปราสาทโอซาก้าขึ้นมาโดยเพิ่มให้ภายในปราสาทมี 8ชั้น สร้างกำแพงใหม่เพื่อให้เป็นเกียรติแต่ตระกูลของซามูไรทุกคนในปัจจุบันนี้เราสามารถสังเกตุที่ตัวกำแพงหินจะมีชื่อที่สลักเอาไว้เพื่อเป็นการอุทิศให้กับตระกูลผู้ร่วมสร้างกำแพงแห่งนี้

เที่ยวปราสาทโอซาก้า

ปีค.ศ.1660 เกิดเหตการณ์ไฟไหม้ขึ้นที่ตัวปราสาทโอซาก้าเนื่องจากว่าเกิดเหตุฟ้าผ่าลงมายังคลังแสงนั่นเอง และอีก5ปีต่อมาก็เกิดฟ้าผ่าอีกครั้งทำให้ตัวปราสาทเสียหายอย่างหนักและพังลงในที่สุด หลังที่ตัวปราสาทถูกปล่อยทิ้งมานานรัฐบาลบากุฟุต้องการจะซ่อมแซมบูรณะตัวปราสาทขึ้นมาโดยการเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านในท้องถิ่นเพื่อมาช่วยสร้างปราสาทขึ้นมาอีกครั้งในปีค.ศ.1843

ปีค.ศ.1868 ที่ปราสาทโอซาก้าได้ถูกล้อมด้วยกองกำลังของจักรพรรดิที่ต่อต้านรัฐบาลบากุฟุและตัวปราสาทเองก็ได้เกิดความเสียหายจากการถูกเผาในสงครามยุคนั้นเรียกว่า "การปฏิรูปเมจิ" ในช่วงเวลาต่อมารัฐบาลเมจิได้ให้ปราสาทโอซาก้าเป็นที่เก็บคลังแสงอาวุธต่างๆในแก่ทหารญี่ปุ่น


ปีค.ศ.1928 เทศบาลเมืองโอซาก้าได้มีการระดมทุนจากชาวบ้านเพื่อมาสร้างหอคอยขึ้นมาใหม่ หลังจากนั้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ที่ปราสาทนี้กลายเป็นที่ผลิตอาวุธที่สำคัญในญี่ปุ่น นั่นจึงทำให้ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากฝ่ายพันธมิตรจึงทำให้ตัวปราสาทนั้นเสียหายอย่างมากจากการทิ้งระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดในปีค.ศ.1945 มีผู้เสียชีวิตไปหลายราย

ปีค.ศ.1995 เทศบาลโอวาก้าได้ริเริ่มโครงการบูรณะปราสาทโอซาก้าขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยต้องการให้รูปลักษณ์ภายนอกยังคงความเป็นยุคเอโดะอยู่ ซึ่งแผนการนี้สำเร็จในปี 1997 ตัวปราสาทภายในและภายนอกมีความสวยงามขึ้นมาก และทันสมัยโดยมีลิฟท์อยู่ภายในปราสาท และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆมากมาย

ปราสาทโอซาก้ามีประวัติที่ยาวนานเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมอีกด้วยค่ะ ลองไปดูสิ

ติดตามเรื่องท่องเที่ยวโอซาก้าอื่นๆ ได้ที่ http://all-in-osaka.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น